มาเก๊า หวั่นโควิด!! สั่งล็อกดาวน์ทุกอย่าง ยกเว้นคาสิโน!
เนื่องจากก่อนหน้านี้ มาเก๊ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงวันที่ผ่านมาเป็นจำนวนหลักร้อยเลยทีเดียว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังได้มีการช่วยกันระดมตรวจหาเชื้อและคัดกรองผู้ติดเชื้อทั่วเมืองตามนโยบายของรัฐ มาเก๊า ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหานครคาสิโนแห่งเอเชียตะวันออกได้มีการกลับมาใช้นโยบายล็อกดาวเมืองอีกครั้งพร้อมตรวจเชิงรุกหลังพบผู้ติดเชื้อกว่า 110 ราย โดยทางการได้ออกมาให้เหตุผลว่าถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะยังคงไม่ได้มากแต่ต้องรีบออกมารับมือกับสถานการณ์นี้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะระบาดหนักไปกว่านี้
โดยทางด้านของผู้บริหารสูงสุดของมาเก๊า นายโฮ ยัตเส่ง ได้มีการออกากล่าวว่า..
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้มาเก๊าจะสามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้ดีก็ตามแต่มองว่าสถานการณ์ปัจจุบันนั้นมีแนวโน้มซับซ้อนและร้ายแรงกว่าที่เคยเป็นและหลังจากนั้น 48 ชั่วโมงได้มีคำสั่งให้ระดมทดสอบหาเชื้อครั้งใหญ่และสั่งปิดทั้งโรงภาพยนตร์ ,ผับบาร์ ,ร้านตัดผม ,ร้านเสริมสวย,สนามกีฬา,ห้องยิม แต่ยกเว้นแค่กิจการคาสิโน ที่ถือได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่และเป็นตัวสร้างเม็ดเงินและรายได้หลักของที่นี้ ดังนั้งจึงได้รับการยกเว้นจากมาตรการล็อคดาว
โดยนายโฮ ยัตเส่ง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า..
ทางการได้มีการทำข้อตกลงประนีประนอมกับกิจการคาสิโนให้สามารถเปิดได้แต่มีข้อแม้ว่าหากเกิดการระบาดจากคาสิโนไหน ที่นั้นก็จะต้องถูกสั่งปิดทันทีแบบไม่มีข้อยกเว้นใด ๆ เมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมาสื่อท้องถิ่นได้รายงานว่า คาสิโนในโรงแรมแห่งหนึ่งได้ถูกสั่งให้ปิดทันทีเนื่องจากพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย โดยได้มีการขังคนเอาไว้ในคาสิโนประมาณกว่า 700 คนเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องของการพนันที่จะทราบกันดีกว่าเป็นสิ่งต้องห้ามในจีนแผ่นดินใหญ่ก็จริงแต่กลับได้รับอนุญาตในมาเก๊า อดีตอาณานิคมของโปรตุเกสท่ถือได้ว่ามีอุตสาหกรรมคาสิโนที่ใหญ่กว่า Las Vegas โดยสำหรับอุตสาหกรรมคาสิโนมาเก๊าที่จะมีมูลค่ามากกว่าครึ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมของเมืองและจากผลสำรวจแล้วพบว่า 1 ใน 5 ของพลเมืองของที่นี้นั้นส่วนใหญ่แล้วจะทำงานอยู่ในอุตสาหรรมนี้
และที่ในช่วงโควิดระบาดที่ผ่านมาอุตสาหกรรมคาสิโนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงไม่ต่างกับภาคส่วนอื่นๆ เลยที่ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปเรียกได้ว่าแทบจะหมดส้ินแต่ทั้งนี้สำหรับการระบาดที่ผ่านมาที่ต่างก็ได้รับผลกระทบไปทั่วโลกก็ถือว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่ความท้าทายเดียวที่อุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญ
โดยทางด้านของประธานาธิบดี สีจิ้นผิง ได้มีการออกมาตรการรณรงค์และต่อร้านการทุจริตคอรัปชั่นจนส่งผลทำให้เกิดการตรวจสอบประวัติของเหล่าบรรดาเซียนพนันรายใหญ่หลายรายด้วยกันรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ทางการอีกหลายรายที่อาจจะเดินทางไปมาเก๊าเพื่อทำการฟอกเงิน
โดยเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมาทางด้านของสภานิติบัญญัติของมาเก๊าได้มีการผ่านกฎหมายพนันฉบับใหม่ที่จะทำให้รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามากำกับดูแลอุตสาหกรรมคาสิโนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถที่จะทำการกำหนดทิศทางใหอุตสาหกรรมดังกล่าวนี้เป็นแหล่งรายได้ที่ดีในแบบที่ไม่เป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาตินั่นเอง